ประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์
หลังจากที่สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ทรงปราบจลาจลในปลายสมัยธนบุรีเสร็จสิ้นแล้ว จึงได้ทรงสถาปนาราชวงศ์จักรี และขึ้นครองราชย์ในฐานะปฐมกษัตริย์ แ่ห่งราชวงศ์จักรี ทรงพระนาว่า สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรี มายังฝั่งกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อ พ.ศ. 2325
สาเหตุที่ทรงย้ายราชธานี มีดังนี้ คือ
1. พระราชวังเดิมของกรุงธนบุรีคับแคบ มีวัดขนาบทั้ง 2 ข้าง (คือวัดท้ายตลาด หรือวัดโมลีโลกยาราม และวัดอรุณราชวราราม)
2. ทรงไม่มีพระประสงค์จะให้ราชธานีแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยากั้น
3. พื้นที่นทางฝั่งตะวันออกเป็นที่ราบลุ่ม สามารถขยายเมืองออกได้อย่างกว้างขวาง
4. ฝั่งธนบุรีพื้นที่เป็นท้องคุ้ง น้ำกัดเซาะตลิ่งพังทลายได้ง่าย
ในการสร้างพระบรมมหาราชวัง โปรดให้สร้างวัดขึ้นในพระบรมมหาราชวังด้วย คือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว แล้วอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐาน
กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น หมายถึง ประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 3 ซึ่งนับว่าเป็นระยะเชื่อมต่อระหว่างประวัติศาสตร์ไทยยุคเก่า มาสู่การปฏิรูป และพัฒนาประเทศ ตามแบบอารยธรรมตะวันตกในยุคปัจจุบัน
ความเจริญในด้านต่าง ๆ ในสมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 3 มีดังนี้
- การปกครองในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ถือตามแบบสมัยอยุธยา โดยมีพระมหาษัตริย์เป็นประมุขสูงสุด
- การปกครองส่วนกลาง มีลักษณะดังนี้ คือ
- มีอัครมหาเสนาบดี 2 ตำแหน่ง คือ
- สมุหกลาโหม เป็นหัวหน้าฝ่ายทหาร และปกครองหัวเมืองฝ่ายใต้
- สมุหนายก เป็นหัวหน้าฝ่ายพลเรือน และปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือ
- มีจตุสดมภ์ทั้ง 4 ฝ่าย ภายใต้การดูแลของสมุหนายก ได้แก่
- เสนาบดีกรมเมือง
- เสนาบดีกรมวัง
- เสนาบดีกรมคลัง
- เสนาบดีกรมนา
- การปกครองส่วนภูมิภาค แบ่งหัวเมืองออกเป็น 3 ประเภท คือ
- หัวเมืองชั้นใน หรือเมืองจัตวา
- หัวเมืองชั้นนอก
- หัวเมืองประเทศราช ถ้าเป็นเมืองที่อยู่ห่างไกลราชะานี จะต้องส่งเครื่องบรรณาการมาให้เมืองหลวง 3 ปีต่อครั้ง ส่วนเมืองที่อยู่ใกล้ราชธานี ให้ส่งมาปีละครั้ง
- กฎหมายไทยในสมัยนี้ ถือตามแบบอย่างอยุธยาและธนบุรี แต่ได้มีการแก้ไขตรวจสอบขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ 1 มีชื่อว่า กฎหมายตราสามดวง คือ ตราราชสีห์ ตราคชสีห์ และตราบัวแก้ว ใช้สืบต่อมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5
- การศึกษามีศูนย์กลางอยู่ที่วัด วัง และตำหนักเจ้านาย รัชกาลที่ 3 โปรดให้จารึก ตำราการแพทย์แผนโบราณ ไว้ที่วัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์) ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นวัดมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย
- การศาสนา การทำนุบำรุงศาสนา จะมีการทำสังคายนา ชำระพระไตรปิฎก การออกกฎหมายสำหรับพระสงฆ์ และการสร้างวัดสำคัญ เช่น วัดพระศรีรัตนศาดาราม วัดสุทัศน์เทพวราราม และวัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม เป็นต้น ในสมัยรัชกาลที่ 2 โปรดให้ส่งทูตไปศึกษาความเป็นไป ของพระพุทธศาสนาในลังกา และได้นำหน่อพระศรีมหาโพธิ์จากลังกา กลับมา ในสมัยรัชกาลที่ มีการสร้างและปฏิสังขรณ์วัดเป็นจำนวนมาก จนนับได้ว่า เป็นสมัยที่มีการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก
- ความสัมพันธ์กับประเทศตะวันตก ได้ขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากอยู่ในยุคแห่งการ ปฏิวัติอุตสาหกรรม และลัทธิจักรวรรดินิยม ชาติตะวันตกที่สำคัญ ที่เข้ามาติดต่อกับไทย ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้แก่
- โปรตุเกส เป็นชาวตะวันตกชาติแรกที่เข้ามาติดต่อ ชาวโปรตุเกส ชื่อ อันโตนิโอ เอด วิเสนท์ (องตนวีเสน) เป็นผู้อัญเชิญสาส์นเข้ามา ในรัชกาลที่ 1 ในสมัยรัชกาลที่ 2 ไทยได้ส่งเรือไปค้าขาย กับโปรตุเกส ที่มาเก๊า และโปรตุเกสได้ขอเข้ามาตั้งสถานกงสุล ในประเทศ ได้สำเร็จเป็นประทเศแรก
- อังกฤษ พยายามทำไมตรีกับไทย เพื่อหวังประโยชน์ในดินแดนมลายู ในสมัยรัชกาลที่ 3 อังกฤษ ได้มาขอความช่วยเหลือให้ไทยไปช่วยรบกับพม่า ไทยกับอังกฤษ ได้ทำสนธิสัญญา โดยสมบูรณ์เป็นฉบับแรก ในสมัยรัตนโกสินทร์ คือ สนธิสัญญาเบอร์นี ในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2369 โดยมีสาระสำคัญ คือ ไทยกับอังกฤษ จะมีไมตรีจิตต่อกัน อำนวยความสะดวกในด้านการค้าซึ่งกันและกัน และเรือสินค้า ที่เข้ามาค้าขาย ต้องเสียภาษีเบิกร่อง หรือภาษีปากเรือ แทนการเก็บภาษีตามแบบเดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น